สำหรับผู้ที่จะขาย
หนังสือสัญญาจะซื้อจะขาย สัญญาเลขที่
.............................................
ทำที่.................................................................
วันที่.................................................................
สัญญาฉบับนี้ทำขึ้นระหว่าง
......................................................................
สำนักงานตั้งอยู่เลขที่............อาคาร........................................
ถนน.........................เขต.........................จังหวัด..........................โทร..........................โดย.....................................................................................
ผู้มีอำนาจกระทำการแทน
ปรากฏตามเอกสารผนวก 1 ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “ผู้จะขาย”
ฝ่ายหนึ่งกับ
...........................................................................อายุ............ปี
สัญชาติ.............บัตรประจำตัวประชาชนเลขที่.......................................
อยู่บ้านเลขที่................................................ถนน............................................ตำบล/แขวง.............................................................................................
อำเภอ...........................................จังหวัด.........................................รหัสไปรษณีย์....................โทรศัพท์.......................................................................
ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “ผู้จะซื้อ” อีกฝ่ายหนึ่ง
คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงทำสัญญากันโดยมีข้อความดังต่อไปนี้
ข้อที่ 1. คำรับรองของผู้จะขาย
ผู้จะขายรับรองว่าผู้จะขายเป็นผู้จัดสรรที่ดินโครงการ................................................................ที่ตั้งเลขที่.................................................
ถนน................................................ตำบล/แขวง...............................................อำเภอ/เขต...................................................จังหวัด.....................................................
โดยได้รับอนุญาตให้ทำการจัดสรรที่ดินตามกฎหมายว่าด้วยการจัดสรรที่ดินตามใบอนุญาตเลขที่............................................ลงวันที่...............................................
เอกสารผนวก 2 รายละเอียดแผนผังและที่ตั้งโครงการที่ได้รับอนุญาตให้ทำการจัดสรรที่ดิน
เอกสารผนวก 3
ข้อที่ 2. ขอตกลงจะซื้อจะขาย
ผู้จะขายและผู้จะซื้อตกลงจะซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างในบริเวณโครงการจัดสรรที่ดินตามสัญญาจำนวน.....................แปลง
เป็นที่ดิน
แปลงที่...................มีจำนวนเนื้อที่........................ตารางวา ปรากฏตามแผนผังโครงการที่ได้รับอนุญาตให้ทำการจัดสรรที่ดิน
เอกสารผนวก 3 และ
แบบแปลนการก่อสร้าง เอกสารผนวก 4
ในขณะที่ทำสัญญาที่ดินตามวรรคหนึ่ง เ
เป็นส่วนหนึ่งของที่ดินโฉนด
เป็นของที่ดินโฉนด
เลขที่..................หน้าสำรวจ...............เลขที่ดิน.................
หมู่ที่.........................ตำบล/แขวง.....................................อำเภอ/เขต.....................................จังหวัด..........................................เป็นกรรมสิทธิ์/สิทธิครอบครองของผู้จะขาย
ในขณะที่ทำสัญญาที่ดินตามวรรคหนึ่ง เป็นส่วนหนึ่งของที่ดินโฉนด เป็นของที่ดินโฉนด เลขที่..................หน้าสำรวจ.................เลขที่ดิน................
หมู่ที่........................ตำบล/แขวง......................................อำเภอ/เขต.....................................จังหวัด..........................................เป็นกรรมสิทธิ์/สิทธิครอบครองของผู้จะขาย
ได้จำนองไว้กับ...................................................................................................................................โดยที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นประกันหนี้จำนองหนี้บุริมสิทธ์
จำนวนเงิน...........................................................บาท.
(......................................................................)
ข้อที่ 3.ราคาที่จะซื้อจะขาย
3.1
ผู้จะซื้อและจะขายตกลงจะซื้อจะขายที่ดินพร้อมสิ่งสร้างตามข้อ 2
ราคาที่ดินตารางละ................................บาท
รวมเป็นเงินค่าที่ดิน...........................................บาท
และสิ่งปลูกสร้าง...............................................บาท
รวมเป็นเงินค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างทั้งสิ้น...................................................................บาท (……………………………………………………………………….)
3.2 ในกรณีที่ยังไม่ได้แบ่งแยกโฉนดที่ดิน/หนังสือรับรองการทำประโยชน์
เมื่อได้แบ่งแยกแล้วแล้วหากปรากกฎว่ามีเนื้อที่ดินเพิ่มขึ้นหรือลดลงไป
เพิ่มหรือลด
จากราคาที่ดินตามข้อ 3.1 และจำนวนเงินที่ต้องชำระตามข้อ 4.2,4.3
ข้อที่
4. การชำระเงินและการโอนกรรมสิทธ์
4.1
คู่สัญญาตกลงให้ถือเอาเงินที่ผู้จะซื้อได้ชำระในวันจองเมื่อวันที่...........................................................เป็นจำนวน...................................บาท
(………………………………………………….) และเงินที่ผู้จะซื้อได้ชำระในวันทำสัญญาอีก
จำนวนเงิน..........................................
บาท (..…………………………………………...) รวมเงินที่ผู้จะซื้อได้ชำระให้แก่ผู้จะขายไปแล้วทั้งสิ้น
จำนวนเงิน..........................................
บาท (..……………………………………………) เป็นการชำระราคาที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างตามของที่ 3.1 ส่วนหนึ่ง
4.2
ผู้ที่จะซื้อตกลงชำระราคาค่าที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง
จำนวนเงิน..........................................
บาท (……………………………………………..)โดยแบ่งเป็นงวด
ๆ ดั้งนี้
งวดที่
1 ชำระภายในวันที่ .......................................................
จำนวนเงิน ............................... (………………………………..)
งวดที่
2 ชำระภายในวันที่ .......................................................
จำนวนเงิน ............................... (………………………………..)
งวดที่ 3
งวดที่ 4
งวดที่
5
งวดที่
6
งวดที่
7
งวดที่ 8
งวดที่
9
งวดที่
10
งวดที่ 11
งวดที่ 12
งวดที่
13
ลงชื่อ...........................................................................ผู้จะซื้อ
ลงชื่อ.....................................................................ผู้จะขาย
(…………………………………………………….) (…………………………………………………)
สำหรับผู้จะขาย
4.3
ผู้จะซื้อตกลงชำระราคาค่าที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างส่วนที่เหลือจำนวน.......................................บาท
(…………………………………………….)
ในวันจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างภายในวันที่.........................................................ทั้งนี้ผู้จะขายต้องแจ้งกำหนดวันจดทะเบียน
โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างให้ผู้จะซื้อทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า
30 วัน
ข้อที่
5. หลักฐานการชำระเงิน
ในการชำระเงินค่าที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างผู้จะขายต้องออกหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้จะขายหรอผู้รับเงินให้แก่ผู้จะซื้อและผู้จะขายยอมรับว่าหลักฐาน
การชำระเงินดังกล่าวเป็นหลักฐานการแสดงการชำระราคาที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างด้วย
ข้อที่
6. สาธารณูปโภคและบริการสาธารณะ
6.1
ผู้จะขายต้องจัดให้มีสาธารณูปโภคและบริการสาธารณะในโครงการจัดสรรที่ดินตามที่ได้รับอนุญาต จากคณะกรรมการจัดสรรที่ดิน
จังหวัด......................................และตามที่ผู้จะขายได้โฆษณาไว้
เอกสารผนวก 3 และเอกสารผนวก 4 ทั้งนี้การจัดให้มีบริการสาธารณะอาจเปลี่ยนแปลง
ได้ตามข้อกำหนดเกี่ยวกับการจัดสรรที่ดินจังหวัด.........................................................พ.ศ.
.........................
6.2 ในกรณีผู้จะขายเป็นผู้ดำเนินการจัดให้มีการติดตั้งมาตรวัดปริมาตรและปริมาณการใช้สาธารณูปโภคสำหรับที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างที่จะซื้อจะขาย
ตามสัญญานี้
ผู้จะขายต้องโอนสิทธิมาตรวัดปริมาตรและปริมาณการใช้สาธารณูปโภคให้เป็นชื่อของผู้ซื้อภายใน
108 วัน นับแต่วันจะทะเบียนโอน
กรรมสิทธิ์ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง
ทั้งนี้ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการติดตั้งและโอนกรรมสิทธิ์มาตรวัดดังกล่าวผู้จะขายเป็นผู้ชำระไปก่อนและเรียกเก็บจาก
ผู้ซื้อเมื่อโอนสิทธิมาตรวัดแล้ว
6.3
ผู้จะซื้อยินยอมที่จะออกค่าใช้จ่ายในการใช้บริการ และค่าบำรุงรักษาบริการสาธารณะตามอัตราที่คณะกรรมการจัดสรรที่ดิน
จังหวัด.........................................ให้ความเห็นชอบ
ข้อที่
7. การก่อสร้างอาคาร
7.1
กรณีที่ผู้จะขายต้องขออนุญาตก่อสร้างอาคาร
ผู้จะขายต้องดำเนินการยื่นเรื่องราวขออนุญาตก่อสร้างอาคารต่อ
พนักงานเจ้าหน้าที่ภายใน 30 วัน
นับแต่วันทำสัญญานี้
และต้องแสดงหลักฐานการขออนุญาตดังกล่าวต่อผู้จะซื้อภายใน 30 วัน
นับแต่วันที่ได้ดำเนินการขออนุญาต
7.2
ผู้จะขายรับรองว่า
ผู้จะขายได้รับอนุญาตให้ก่อสร้างอาคารตามใบอนุญาตก่อสร้างอาคารเลขที่...................................................................
ลงวันที่......................................เอกสารผนวก........................
7.3
ผู้จะขายต้องก่อสร้างอาคารตามที่กำหนดไว้ในข้อ 2
โดยจัดหาวัสดุที่มีคุณภาพดีตามที่กำหนดในแบบแปลนการก่อสร้างและรายการวัสดุประกอบ
แบบแปลนการก่อสร้าง เอกสารผนวก 4
หากไม่สามารถหาวัสดุตามที่กำหนดไว้จากท้องตลาดผู้จะขายต้องจักหาวัสดุที่มีคุณภาพเทียบเท่าหรือดีกว่า
มาทำการสร้าง
ผู้จะขายต้องจัดหาผู้ควบคุมงานที่มีความรู้ความสามารถ
เพื่อควบคุมงานก่อสร้างให้เป็นไปตามแบบแปลนการสร้างตามสัญญานี้
7.4
เมื่อการก่อสร้างอาคารแล้วเสร็จพร้อมที่จะโอนกรรมสิทธิ์ผู้จะขายต้องขนย้ายเครื่องมือใช้วัสดุอุปกรณ์เหลือใช้และสิ่งรกรุงรังออกไปให้พ้น
บริเวณที่ก่อสร้างพร้อมทั้งกลบเกลี่ยพื้นดินและทำความสะอาดบริเวณดังกล่าวให้เรียบร้อยอยู่ในสภาพที่
ผู้จะซื้อสามารถเข้าอยู่ได้ทันที
7.5
ผู้จะขายยินยอมให้ผู้จะซื้อหรือตัวแทนของผู้จะซื้อเข้าตรวจตราภายในบริเวณที่ดินและอาคารที่ก่อสร้างได้ตลอดเวลาทำการโดยแจ้งให้ผู้จะขาย
ทราบล่วงหน้าและต้องไม่ขัดขวางและรบกวนการก่อสร้าง
ข้อที่
8. การจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์
8.1
ในการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างให้ผู้จะขายต้องโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างโดยปราศจากบุริมสิทธิ
ในข้อมูลซื้อขายอสังหาริมทรัพย์
และภาระการจำนองในที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างนั้น
8.2
ถ้าผู้จะขายไม่ปฏิบัติตามขอ 8.1 ผู้จะซื้อมีสิทธ์ชำระหนี้บุริมสิทธิในมูลซื้อขายอสังหาริมทรัพย์หรือหนี้จำนองต่อผู้ผู้ทรงบุริมสิทธิหรือ
ผู้รับจำนองได้และถือว่าเป็นการชำระราคาที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างแก่ผู้จะขายส่วนหนึ่งด้วย
8.3
เมื่อผู้จะซื้อได้ชำระราคาที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างตามข้อ 3 ครบถ้วนแล้ว
ผู้จะซื้อสามารถนำหลักฐานเป็นหนังสือที่แสดงว่าได้ชำระราคาดังกล่าว
พร้อมด้วยหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินไปขอจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ได้
ในกรณีที่ผู้จะซื้อไม่สามารถนำหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินมาแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ได้เพราะผู้จะขายหรือบุคคลอื่นยึดถือครอบครองไว้เพื่อมา
ดำเนินการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างได้
ข้อ
9. ค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียน
9.1
ค่าธรรมเนียมและค่าใช่จ่ายในการดำเนินการแบ่งแยกโฉนดที่ดิน/หนังสือรับรองการทำประโยชน์
รวมทั้งค่าภาษีอากรในการจดทะเบียน
โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพร้อมปลูกสร้าง
ผู้จะขายเป็นคนออกทั้งสิ้น
9.2
ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง...................................................................................
ข้อที่
10. เบี้ยปรับและดอกเบี้ยผิดนัด
10.1
หากผู้จะขายไม่โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างภายในกำหนดเวลาในข้อ 4
และผู้จะซื้อไม่ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาตามข้อ 14.1 ผู้จะขาย
ยอมให้ผู้จะซื้อดำเนินการ ดังนี้
10.1.1
ปรับผู้จะขายเป็นรายวันในอัตราร้อยละ 0.01 ของราคาที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง
คิดเป็นเงินวันละ....................................................บาท
(…………………………………………………)
นับแต่วันที่จะต้องโอนกรรมสิทธิ์ตามข้อ 4
จนถึงวันที่พนักงานเจ้าหน้าที่โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง
แต่ร่วมกันแล้วต้องไม่เกินร้อยละสิบของราคี่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง
ลงชื่อ
...................................................................ผู้จะซื้อ
ลงชื่อ...........................................................................ผู้จะขาย
(……………………………………………………)
(………………………………………………………..)
10.1.2
เรียกค่าเสียหายอันเกิดขึ้นจากการที่
ผู้จะขายโอนกรรมสิทธ์ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างล่าช้าระหว่างที่มีการปรับนั้นถ้าถูกผู้จะซื้อเห็นว่าผู้จะขาย
ไม่อาจปฏิบัติตามสัญญาต่อไปได้
ผู้จะซื้อมีสิทธิบอกเลกสัญญาและใช้สิทธิตามข้อ 15.1
10.2
หากผู้จะซื้อผิดนัดการชำระเงินตามข้อกำหนดในข้อ 4
ผู้จะซื้อยินยอมให้ผู้จะขายเรียกดอกเบี้ยผิดนัดในอัตราละ 15 ต่อปีของจำนวน
เงินที่ค้างชำระ
นั้นแต่รวมกันแล้วต้องไม่เกินร้อยละสิบของราคาที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง
ข้อที่
11. ความรับผิดชอบในความชำรุดบกพร่อง
11.1
เมื่อมีการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างให้ผู้จะซื้อแล้วู้จะขายต้องรับผิดชอบในความเสียหายหรือความชำรุดบกพร่องอย่างใดอย่างหนึ่ง
ของอาคาร อันเป็นเหตุให้เสื่อมราคาหรือเสื่อมความเหมาะสมแก่ประโยชน์
ที่ผู้จะซื้อพึงได้รับ ดังนี้
11.1.1
กรณีที่เป็นโครงสร้างของอาคาร อันได้แก่ เสาเข็ม ฐานราก เสาคาน พื้นโครงหลังคา
และผนังที่รับน้ำหนักเป็นต้น ภายในระยะเวลา 5 ปี
นับแต่วันโอนกรรมสิทธิ์
11.1.2
กรณีที่เป็นส่วนควบ หรือ อุปกรณ์อันเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของอาคารนอกจาก 11.1.1
ภายในระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันโอนกรรมสิทธิ์
11.1.3
รั้วและกำแพงภายในระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันโอนกรรมสิทธิ์
11.2
ผู้จะขายต้องเริ่มดำเนินการแก้ไขความเสียหายหรือความชำรุดบกพร่องที่เกิดขึ้นภายใน
30 วันนับแต่วันที่ผู้จะซื้อได้แจ้งให้ทราบเป็นหนังสือถึง
ความเสียหายหรือความชำรุดบกพร่องนั้นและต้องดำเนินการให้เสร็จภายในเวลาอันสมควรหากผู้จะขายเพิกเฉยไม่เริ่มดำเนินการแก้ไขภายในกำหนดเวลา
ดังกล่าวหรือดำเนินการแก้ไขโดยชักช้าหรือกรณีมีเหตุจำเป็นเร่งด่วน
ซึ่งหากเนิ่นช้าไปอาจเกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงผู้จะซื้อมีสิทธิแก้ไขเอง หรือ
ความชำรุดบกพร่องและค่าใช้จ่ายที่ผู้จะซื้อได้ชำระไป
ข้อที่
12. การก่อภาระผูกพัน
ภายหลังการทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างแล้ว
ผู้จะขายต้องไม่กระทำการใด ๆ อันเป็นเหตุให้ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่จะขายนั้นเกิดภาระผูกพันเพิ่มขึ้น
ข้อที่
13. การขยายระยะเวลาการปฏิบัติการตามสัญญา
ในกรณีที่เกิดเหตุสุดวิสัยใด ๆ ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้และเป็นเหตุให้การก่อสร้างต้องหยุดชะงักลงโดยมิใช่ความผิดของผู้จะขายหรือผู้รับจ้างก่อสร้างหรือตัวแทนของผู้จะขายหรือมีพฤติการณ์ที่ผู้จะขายไม่ต้องรับผิดชอบให้ขยายระยะเวลา
แล้วเสร็จตามสัญญาออกเท่ากับเวลาที่เสียไปเพราะเหตุดังกล่าว
โดยผู้จะขายต้องแจ้งเหตุดังกล่าวเป็นหลักฐานและหนังสือให้ผู้จะซื้อทราบเพื่อขยายระยะเวลาการก่อสร้างตามสัญญาออกไปภายใน
30 วันนับตั้งแต่วันที่เหตุดังกล่าวนั้นได้สิ้นสุดลง
หากผู้จะขายไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามความในวรรคหนึ่ง
ให้ถือว่าผู้จะขายได้สละสิทธิในการที่จะขอขยายระยะเวลาการทำงานก่อสร้างออกไปโดยไม่มีเงื่อนไขใด
14.1
ผู้จะขายผิดสัญญาข้อหนึ่งข้อใด ผู้จะซื้อมีสิทธิๆ ทั้งสิ้น
ข้อที่
14. การบอกเลิกสัญญา
บอกเลิกสัญญาและใช้สิทธิตามข้อและใช้สิทธิตามข้อ
15.1
14.2
กรณีแบ่งการชำระค่าที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างไม่เกินสามงวดและและผู้จะซื้อผิดนัดไม่ชำระค่างวดใดงวดหนึ่งหรือกรณีแบ่งการชำระค่าที่ดินพร้อมสิ่ง
ปลูกสร้างเกิน สามงวด
และผู้จะซื้อผิดนัดไม่ชำระตั้งแต่สามงวดติดต่อกันโดยไม่มีเหตุอันสมควรว่าผู้จะขายผิดเงื่อนไขในสัญญาเมื่อผู้จะขายได้บอกกล่าวทวงถาม
เป็นหนังสือโดยให้เวลาไม่น้อยกว่าสามสิบวันแล้ว
ผู้จะซื้อยังไม่ชำระผู้จะขายมีสิทธิ์บอกเลิกสัญญาและใช้สิทธิตามข้อ 15.2
ข้อที่
15. สิทธิภายหลังการบอกเลิกสัญญา
15.1
เมื่อผู้จะขายบอกเลิกสัญญาแล้วผู้จะขายยินยอมให้ผู้จะซื้อเรียกเงินที่ผู้จะซื้อได้ชำระไปแล้วทั้งหมดคืนจากผู้จะขายพร้อมดอกเบี้ยในอัตราที่
กำหนดไว้ในข้อ 10.2 นับแต่วันที่ผู้จะซื้อได้ชำระเงินรวมทั้งเรียกค่าเสียหายอื่นอันพึงมี
15.2.
เมื่อผู้จะขายบอกเลิกสัญญาแล้วผู้จะซื้อยินยอมให้ผู้จะขายหักเงินที่ผู้จะซื้อชำระไว้แล้วเป็นค่าเสียหายความเป็นจริงทั้งนี้ค่าเสียหายดังกล่าว
ต้องมีจำนวนไม่เกินเงินที่ผู้จะซื้อชำระไว้แล้วทั้งหมด
ถ้ามีเงินเหลือให้ผู้จะขายคืนเงินให้แก่ ผู้จะซื้อภายในสามสิบวันนับแต่วันบอกเลิกสัญญา
ข้อ
16. คำบอกกล่าว
การบอกล่าวใด
ๆ ตามสัญญานี้ต้องทำเป็นหนังสือแจ้งไปยังคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งตามที่อยู่ข้างต้นหรือที่อยู่ที่อื่นตามที่คู่สัญญาฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจะ
ได้แจ้งเป็นหนังสือให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบหากเป็นการแจ้งทางไปรษณีย์ให้ส่งโดยไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับและให้ถือว่าคู่สัญญาฝ่ายที่รับแจ้งได้รับแจ้งตั้งแต่
วันที่ได้รับหนังสือดังกล่าว
เมื่อคู่สัญญาฝ่ายใดย้ายที่อยู่ต้องแจ้งให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบเป็นหนังสือ
ข้อ 17. เอกสารแนบท้ายสัญญา
คู่สัญญาตกลงให้ถือว่าเอกสารต่าง ๆ
แนบท้ายสัญญา ซึ่งคู่สัญญาได้ลงนาม
กำกับไว้ทุก ๆ หน้าดังต่อไปนี้เป็นส่วนหนึ่งของสัญญาด้วย คือ
17.1
ผนวก 1 สำเนาหนังสือรับรอง การจดทะเบียนนิติบุคคล
และสำเนาหนังสือมอบอำนาจให้กระทำการขายแทนผู้จะขายจำนวน.................แผ่น
17.2
ผนวก 2 สำเนาใบอนุญาต
ให้ทำการจัดสรรที่ดิน จำนวน .............................. แผ่น
17.3
ผนวก 3 สำเนาแบบผังโครงการ
ที่ได้รับอนุญาต ให้ทำการจัดสรรที่ดิน จำนวน
....................................แผ่น
17.4
ผนวก 4 สำเนาแผนผังบริเวณ
แบบแปลนการก่อสร้าง และรายการวัสดุ ประกอบแบบแปลนการก่อสร้าง
จำนวน.....................................แผ่น
17.5
ผนวก 5 เอกสารการโฆษณา
จำนวน...........................................แผ่น
17.6 ผนวก 6
.......................................................................................................................................จำนวน
......................................แผ่น
ในกรณีที่ข้อความเอกสารแนบท้ายสัญญาขัดแย้งกับข้อความในสัญญานี้ให้ใช้ข้อความในสัญญานี้บังคับ
สัญญานี้ทำขึ้นเป็นสองฉบับมีข้อมูลถูกต้องตรงกัน
คู่สัญญาได้อ่านและเข้าใจข้อความในสัญญาโดยตลอดดี แล้วจึงลงลายมือชื่อพร้อมทั้ง
ประทับตรา(ถ้ามี) ไว้เป็นสำคัญต่อหน้าพยาน
และเก็บไว้ฝ่ายละหนึ่งฉบับ
ลงชื่อ................................................................ผู้จะซื้อ ลงชื่อ................................................................ผู้จะขาย
(…………………………………………………..)
(…………………………………………………..)
ลงชื่อ..............................................................พยาน ลงชื่อ...................................................................พยาน
(….………………………………………………..)
(…………..………………………………………….)
เบี้ยปรับและดอกเบี้ยผิดนัด
ตอบลบ. เบี้ยปรับและดอกเบี้ยผิดนัด
ตอบลบ