ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

วิธีเพิ่มลูกค้าของธุรกิจส่วนตัวของคุณ โดยดึงลูกค้ามาจากคู่แข่งของคุณ





ทุกธุรกิจไม่ว่าจะเป็นธุรกิจใหญ่ ,ธุรกิจ SME ต่างก็ต้องการลูกค้าทั้งนั้น
โดยลูกค้าสุดที่รักของคุณ จะเพิ่มมาจากที่ไหนบ้าง    จะขอเสนอแผนรบเพื่อแย่งชิงลูกค้าดังนี้

1. "ฆ่าผัวมันเสีย แล้วเอาเมียมันมา"  หรือวิธีเพิ่มลูกค้าของธุรกิจส่วนตัวของคุณโดยดึงลูกค้ามาจากคู่แข่งของคุณนั่นเอง โดยทั่วไปถ้าลูกค้าใช้สินค้ายี่ห้อใดแล้วประทับใจ  มักจะใช้สินค้ายี่ห้อเดิม ทำให้สินค้าของคุณอาจจะไม่มีโอกาสให้ลูกค้าได้ทดลองใช้เลย ธุรกิจของคุณจึงอาจจะต้องมีการสร้างแรงจูงใจ ที่จะดึงดูดลูกค้าจากคู่แข่งมาเป็นลูกค้าของคุณ
เช่น บริษัทผลิตกล้อง SxxY มีโครงการเก่าแลกใหม่  นำอุปกรณ์เสริมกล้องยี่ห้อใดก็ได้ มาแลกซื้ออุปกรณ์เสริมของ SxxY ซึ่งวิธีนี้ก็ทำให้ลูกค้าที่อยากได้ส่วนลด นำอุปกรณ์เสริมของยี่ห้ออื่นๆ มาแลกซื้ออุปกรณ์เสริมกล้องของSxxY ไปแทน ทำให้ลูกค้าของคู่แข่งอยากทดลองมาใช้สินค้าจากธุรกิจส่วนตัวของคุณ เพราะอยากได้ส่วนลดสินค้านั่นเอง


2. "รีดนาทาเร้น"  หรือวิธีเพิ่มยอดซื้อจากลูกค้าเดิมของคุณ   
ธุรกิจ SME เมื่อทำไปได้สักระยะหนึ่ง มักจะมีลูกค้าประจำ
เราอาจจะเพิ่มยอดขายจากลูกค้าประจำของคุณก็ได้  คุณอาจจะเสนอการขายสินค้าเป็น set แทนที่จะซื้อสินค้าเดี่ยวๆ เช่น คุณขายอาหารตามสั่ง
คุณก็อาจจะเพิ่มโปรโมชั่นขายอาหารเป็นชุด  ทำให้ลูกค้าคิดว่าซื้ออาหารเป็นชุดจะคุ้มค่ากว่าซื้อเป็นจานเดี่ยว (ท้งที่จริงๆ ลูกค้าอาจจะไม่ต้องการทานเยอะ แต่อยากได้ความคุ้มค่า เลยซื้ออาหารเป็น set แทนที่จะซื้ออาหารจานเดียว)
หรือคุณอาจจะดึงคนในช่วงเวลาที่ลูกค้าธุรกิจ ของคุณ มาใช้บริการน้อย
เช่น โรงหนัง เมื่อก่อน คนจะเข้าไปดูในโรงหนังในวันพุธน้อย เพราะว่าเป็นช่วงกลางสัปดาห์   ทางโรงหนังก็เลยจัดโปรโมชั่นดูหนังวันพุธ ราคาพิเศษ ที่นี่คนที่ไม่ค่อยมาดูหนังวันพุธ ก็จะเพิ่มมากขึ้น 


3. "แสวงหาอาณาจักรใหม่"  หรือแสวงหาลูกค้าใหม่ที่ยังไม่เคยใช้สินค้าของธุรกิจของคุณ    ธุรกิจ SME สามารถพลิกแพลงกลยุทธ์เพื่อหาลูกค้าใหม่ได้เยอะ เพราะไม่ต้องรอฟังคำสั่งจากสำนักงานใหญ่
เพียงแต่ใช้ความคิดสร้างสรรของคุณ เช่น ถ้าคุณขายอาหารอยู่ที่ร้าน  คุณอาจจะมีบริการ delivery เพื่อส่งอาหารไปยังลูกค้าที่อยู่ไกล แต่อยากทานอาหารจากร้านคุณ
หรือถ้าคุณอยู่ใกล้กับบริษัทที่มักจะมีการจัดสัมมนาอยู่บ่อยๆ คุณก็อาจจะรับจัดของว่างเพื่อไปบริการในช่วงที่บริษัทมีการสัมมนาก็ได้


ที่มา www.thaismefriend.com

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

CPM กับ PERT ต่างกันอย่างไร

คำถามที่ 1 เอกสาร power point หน้า 13 มีกี่เส้นทาง ที่เป็นไปได้ และเส้นทางใดเป็น critical path พร้อมบอกระยะเวลาที่วิกฤติ               จากภาพ มีทั้งหมด 3 เส้นทางที่เป็นไปได้คือ               A - D - I = ใช้ระยะเวลา 0+3+8+6 = 17              B - E - G - J = ใช้ระยะเวลา 0+5+5+4+4 = 18               C - F - H - J  =  ใช้ระยะเวลา 0+7+5+5+4= 21              ดังนั้น   เส้นทางที่เป็น critical path คือ   C - F - H - J  ระยะเวลาที่วิกฤติคือ 21   คำถามที่ 2 ท่านคิดว่า CPM กับ PERT ต่างกันอย่างไร หน้า 19 กับ 26 การบริหารงานโครงการด้วยการ วางแผนควบคุม โดยใช้เทคนิค PERT : Program Evaluation and Review Technique และ CPM : Critical Path Method เป็นการวิเคราะห์ข่ายงานที่มักนำมาใช้ในการบริหารงานโครงการ มีจุดเริ่มต้นของโครงการจนถึงปิดโครงการที่แน่นอน มีส่วนงานย่อยต่าง ๆ ที่มีการกระจายโดยมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน ข้อแตกต่างชัดเจนระหว่าง PERT และ CPM คือ เวลาในการทำกิจกรรม โดยที่เวลาในการทำกิจกรรมของ PERT จะเป็นเวลาโดยประมาณซึ่งคำนวณได้ด้วยการใช้ความน่าจะเป็น PERT จึงใช้กับโครงการ

สอนงานการทำงวด งานการก่อสร้าง การจัดงวดงานเบื้องต้น มูลค่างานที่จ่ายควรใกล้เคียงกัน ส่งเสริมให้องค์กรแข็งแรง

รายงานย่อยฉบับที่ 1 ปัญหาจากการจัดงวดงานที่ควรทราบ กระทู้คำถาม ออกแบบและสร้างบ้าน คุ้มครองผู้บริโภค สวัสดีครับ พี่ๆน้องๆชาวพันทิพย์ จากกระทู้ที่ผมเคยตั้งไว้   รายงานการก่อสร้างบ้านพัก 2 ชั้น ฉบับที่ 1   http://pantip.com/topic/30590647 รายงานการก่อสร้างบ้านพัก 2 ชั้น ฉบับที่ 2   http://pantip.com/topic/30609981 ถ้าท่านใดขอรับบันทึกการประชุมทางหลังไมค์ของผมไปจะพบว่าช่วงท้ายได้มีการพูดถึงการจัดงวดงานใหม่ ผมจึงอยากนำกรณีนี้มานำมาประกอบความเข้าใจ ผมขออนุญาตติด tag 2 ห้องนะครับ 1. ห้องชายคา - เกี่ยวกับขั้นตอนการสร้างบ้าน 2. คุ้มครองผู้บริโภค - เกี่ยวกับการรักษาผลประโยชน์ให้เจ้าของบ้านซึ่งอาจถูกเอาเปรียบได้ ถ้าท่านไหนมีคำแนะนำเพิ่มเติม แนะนำได้เลยนะครับ เพราะผมเองอาจจะมีข้อผิดพลาด ถือว่าแลกเปลี่ยนมุมมองกันครับ 7   6   chekub       17 มิถุนายน 2556 เวลา 21:56 น. สมาชิกหมายเลข 1439329  ถูกใจ,   You raise me up  ถูกใจ,   Paradise Slice and double shot  ถูกใจ,   สาวบางกอก  ถูกใจ,   แมวมองนอนหวด  ถูกใจ,   สมาชิกหมายเลข 746318  ทึ่ง 18 ความคิดเห็น ความคิ

กลยุทธ์ใหม่ ModernTrade เพิ่มยอดขาย ขยายรูปแบบ แย่งลูกค้าคู่แข่ง

      โดย...ธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย                หลังจากควบรวมกิจการกับคาร์ฟูร์                บิ๊กซี ก็ผงาดขึ้นเป็นเบอร์ 2                จ่อไล่หลังเทสโก้โลตัสมาติดๆ                 และก็มีความเคลื่อนไหว ใน "รูปแบบ" ของตัวห้างออกมาอย่างต่อเนื่อง                มาลองทบทวนดูความเคลื่อนไหวดูอีกสักครั้ง               เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 Casino Guichard-Perrachon หรือ กลุ่มคาสิโน ได้ชนะการประมูลกิจการคาร์ฟูร์ในประเทศไทย ด้วยราคาซื้อขาย 686 ล้านยูโร โดยมีธนาคารดอยซ์แบงก์ เป็นที่ปรึกษา ทั้งนี้ บริษัทดังกล่าวถือหุ้น บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ในประเทศไทย และ 2 บริษัทรวมตัวกัน และจะส่งผลให้สาขาของบิ๊กซีเพิ่มเป็น 105 สาขา จาก 60 สาขาในขณะนั้น คิดเป็นมูลค่า 35,500 ล้านบาท               การควบรวมกันเสร็จสิ้นในเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยปัจจุบัน บิ๊กซีได้ทำการรีโนเวตห้างคาร์ฟูร์ทุกสาขาให้กลายเป็น "บิ๊กซี" ทั้งหมด               โดยรูปแบบจะแตกต่างกันไป มีตั้งแต่ บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์, บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า, บิ๊กซี มาร์เก็ต (เดิม